ช่วงที่หุ้นน่าช้อนมากที่สุด คือช่วงไหน?

1. ช่วงที่ตลาดมี Panic หรือข่าวร้ายแรงจนราคาหุ้นร่วงแรง

• ตัวอย่างเช่น วิกฤตโควิด-19 ช่วงมีนาคม 2020 ที่ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ร่วงไปถึง 970 จุด จากกว่า 1,500 จุดในเวลาไม่กี่สัปดาห์
• นักลงทุน “กลัวจนเกินเหตุ” และขายแบบไม่ดูพื้นฐาน

ทำไมถึงน่าช้อน: เพราะราคาหุ้นที่มีพื้นฐานดีมักจะร่วงไปด้วย ทั้งที่ธุรกิจไม่ได้เสียหายจริง เป็นจังหวะให้ “เก็บของถูก”

2. ช่วงที่งบการเงินของบริษัทแย่ชั่วคราวจากปัจจัยภายนอก

• เช่น ราคาหุ้นโรงแรม-สายการบินตกเพราะโรคระบาด แต่ธุรกิจจะฟื้นตัวได้ในระยะยาว
• หุ้นพลังงานตกเพราะราคาน้ำมันลงแรง แต่ต้นทุนผลิตยังต่ำกว่าราคา

ทำไมถึงน่าช้อน: หากวิเคราะห์แล้วว่า “แย่ชั่วคราว ไม่ใช่แย่ถาวร” ก็เป็นโอกาสซื้อสะสม

3. ช่วงที่ดัชนีตลาดรวมอยู่ในแนวโน้มขาลง (Bear Market)

• ตลาดหมี (Bear Market) หมายถึง ตลาดที่ราคาหุ้นโดยรวมลดลงจากจุดสูงสุด 20% ขึ้นไป
• คนส่วนใหญ่กลัว ไม่กล้าลงทุน ทำให้ราคาหุ้นดี ๆ ตกตาม

ทำไมถึงน่าช้อน: นักลงทุนสาย VI หรือสาย DCA มักใช้ช่วงนี้เก็บหุ้นพื้นฐานดีในราคาถูก

4. ช่วงสิ้นไตรมาสหรือสิ้นปี (Window Dressing Effect)

• บางครั้งกองทุนหรือสถาบันการเงินอาจ “ทำราคา” หุ้นบางตัวช่วงสิ้นไตรมาสหรือสิ้นปี
• พอจบงวด ราคาอาจย่อลงเล็กน้อย เป็นจังหวะให้ช้อน

5. หลังการปรับฐานแรงของหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง (Overreaction)

• หุ้นบางตัวตกแรงจากข่าวลือ ข่าวร้ายเฉพาะกิจ หรือการขายของนักลงทุนรายใหญ่
• ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยน เป็นโอกาสในการ “ซื้อสวน” ตลาด